12 ธันวาคม 2560

เทรนด์ธุรกิจคนรุ่นใหม่ : StartUps สร้างวัยรุ่นรวยพันล้าน


Highlight

  • Startups เป้าหมายใหม่สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้านายตัวเอง
  • อาวุธของคนรุ่นใหม่คือ เทคโนโลยี
  • ตัวอย่างวัยรุ่นพันล้านของจริง เศรษฐีใครๆก็เป็นได้ต่อให้อายุยังน้อย

      

ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเป็นเจ้านายของตัวเอง ประโยคข้างต้นดูเหมือนจะเป็นอะไรที่เราเคยได้ยินกันมาหลายยุคสมัย แต่ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าเราจะเป็นนายตัวเองที่ประสบความสำเร็จกันได้ง่าย ๆ ความไม่มั่นคงทั้งด้านเงินทุน การเติบโต และผลตอบแทน ก็อาจจะทำให้หลายคนรับมือกับความกดดันเหล่านี้ไม่ไหว จนขอเลือกชีวิตแบบมีการงานที่ดี เงินเดือนที่เหมาะสม และอยู่ในองค์กรที่มั่นคงจะดีกว่า

แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังคงกล้าเสี่ยงที่จะเดินหน้า และกลายมาเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าคนยุคใหม่ที่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการเพิ่มฐานเงินเดือนไปทีละนิด แต่อยากจะเป็นคนกำหนดรายรับของตัวเอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เกิด Startup รายใหม่ขึ้นมากมายในช่วงหลายปีมานี้

Paul Graham กูรูด้านการลงทุนไอทีชื่อดัง เจ้าของบริษัท Y Combinator ที่ลงทุนใน Startup กว่า 400 ราย ได้ให้คำนิยามของ Startup ไว้ว่า “Startup คือบริษัทที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องอุตสาหกรรม เงินลงทุนมหาศาล หรือการเติบโตที่ต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะถึงเป้าหมาย Startup อาศัยโมเดลทางธุรกิจแบบใหม่ เข้ามาแย่งชิงตลาดของธุรกิจเดิม หรือบางครั้งถึงขั้นเปิดตลาดแบบใหม่และทำลายล้างรูปแบบเดิมไปตลอดกาล ‘โมเดลธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คือหัวใจหลักของ Startup’ และการเติบโตที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วนี่เอง ที่เป็นสิ่งดึงดูดให้ใคร ๆ ก็อยากลองเสี่ยงกับการทำธุรกิจชนิดนี้

 

เทคโนโลยี คือ อาวุธ

ถ้าว่ากันตามคำนิยามของ Paul Graham แล้ว Startup ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้วยซ้ำ เพียงแค่โมเดลธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพก็เพียงพอแล้ว แต่ทำไมรูปแบบของ Startup มากมายที่ผุดขึ้นมาจึงทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสายเทคโนโลยีซะเยอะ เพราะมันคือ อาวุธ ของคนยุคใหม่ยังไงล่ะ

ดูจากบริษัทอย่าง Google Facebook Twitter Uber Alibaba ก็ล้วนเคยเป็น Startup มาก่อนทั้งนั้น โดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งก็คืออินเทอเน็ตในยุคนั้น มาประกอบสร้างเป็นโมเดลธุรกิจจนที่เติบโตจนถึงระดับพันล้านเหรียญได้ แม้ว่าในตอนนั้นอินเทอเน็ตจะยังไม่เป็นที่นิยมขนาดนี้ก็ตาม ดังนั้นความเข้าใจต่อเทคโนโลยีของคนรุ่นใหม่ (ซึ่งแน่นอนว่าต้องเชี่ยวชาญกว่าคนรุ่นเก่าอยู่แล้ว) จึงถือเป็นข้อได้เปรียบ ที่สามารถนำมาใช้เจาะตลาดของผู้บริโภคที่แทบจะมีเทคโนโลยีเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิต

ข้อมูลจาก Thai Venture Capital Association หรือสมาคม VC ไทย จากปี 2016 รายงานสถิติข้อมูลของผู้ Startups ในประเทศไทย พบว่ากลุ่มของผู้ก่อตั้งที่มีอายุ 26-29 ปี มีมากเป็นอันดับ 2 หรือคิดเป็น 30 % จากทั้งหมด โดยทำธุรกิจเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์มากถึง 33.30% รองลงมาคือ Commerce 23.30% และ FinTech 17%

ที่น่าสนใจคือการที่จำนวนเงินลงทุนในแวดวง Startup ไทยนั้นสูงขึ้นทุก ๆ ปี แต่ Startup ส่วนใหญ่ยังคงเน้นวางแผนทำการตลาดอยู่ในประเทศไทยอย่างเดียวถึง 60% มีวางแผนทำธุรกิจกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 30% และประเทศอื่นๆนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพียง 10% เท่านั้น

นี่จึงอาจเป็นช่องว่างใหญ่และโอกาสสำคัญที่เหล่า Startup หน้าใหม่ ๆ ไม่ควรมาเบียดกันแย่งส่วนแบ่งการตลาดอยู่แค่ภายในประเทศ แต่ควรจะคิดขยายให้ไกลออกไปถึงตลาดต่างประเทศกันได้แล้ว

 

วัยรุ่นพันล้านของจริง!

ท่ามกลางความกดดันด้านการศึกษา และความคาดหวังของผู้เป็นพ่อแม่ การที่เด็ก ๆ จะลุกขึ้นมาทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นั่นก็เป็นเพียงความเข้าใจที่มีต่อการทำธุรกิจแบบเก่าเท่านั้น และนี่คือตัวอย่างของเหล่าวัยรุ่นที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์กว่าพันล้านดอลลาร์ โดยที่ทั้งหมดนั้นเป็นเงินที่พวกเขาหามาด้วยความสามารถของตัวเอง

  • พี่น้อง Patrick และ John Collison (29 และ 27 ปี)

Patrick กับ John Collison คือพี่น้องชาวไอริช ผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe บริษัทฟินเทคให้บริการด้านธุรกรรมการเงินทางอินเตอร์เน็ต เมื่อปี 2010 ถือเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองของ PayPal โดยให้บริการอยู่กว่า 25 ประเทศ โดยในปีที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนเงินทุนพัฒนาธุรกิจจากทั้ง Sequoia Capital และ Google พวกเขาดร็อปเรียนจากมหาวิทยาลัยกลางคันเพื่อมาบุกเบิกธุรกิจ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะในวัยเพียงเท่านี้สองพี่น้องมีสินทรัพย์ในครอบครองอยู่ถึงคนละ 1,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 37 พันล้านบาท)

  • Evan Spiegel (26 ปี)

ไม่พูดถึงคนนี้คงไม่ได้ เพราะเขาคือผู้ร่วมก่อตั้งแอพพลิเคชั่น Snapchat ร่วมกับ Bobby Murphy วัย 28 ปี ทั้งสองเรียนด้วยกันที่ Stanford University และร่วมพัฒนาโซเชียลแอพสำหรับส่งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ พร้อมมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้ จนเป็นที่นิยออย่างมากในกลุ่มคนวัย 18-34 ปี และมีผู้ใช้งานถึง 150 ล้านคนต่อวัน หลังจาก Snap เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไปเมื่อเดือนมีนาคม 2017 Evan Spiegel จึงกลายเป็นซีอีโอบริษัทจดทะเบียนที่อายุน้อยที่สุด โดยสินทรัพย์ที่เขาครอบครองอยู่กว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 144 พันล้านบาท) ก็ทำให้เขาติดอันดับมหาเศรษฐีอายุไม่เกิน 40 ที่มีทรัพย์สินสูงที่สุดแห่งปี 2017 จากการจัดอันดับของ Forbes อีกด้วย

  • Noa Mintz (17 ปี)

Nannies by Noa อาจจะไม่ใช่ Startup ที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุด แต่มันเป็นธุรกิจที่เกิดจากผู้ก่อตั้งอายุไม่ถึง 20 ปี และเป็นการสร้างโมเดลธุรกิจระหว่างพี่เลี้ยงเด็กและครอบครัวแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ธุรกิจของเธอคือการเปิดบริษัทเอเจนซี่ในรูปแบบเว็บไซต์จัดหาพี่เลี้ยงเด็กให้กับครอบครัวใน New York City และ Hamptons โดยเป็นสื่อกลางในการสอบถามความต้องการของลูกค้าและจัดหาพี่เลี้ยงที่เหมาะสมให้กับลูกของพวกเขา ปัจจุบัน Nannies by Noa มีทีมงานทั้งแบบเต็มเวลาและพาร์ทไทม์ดูแลลูกค้าอยู่กว่า 190 ครอบครัว ทำให้ Noa Mintz มีรายได้กว่า 300,000 ดอลล่าร์ต่อปี (10.8 ล้านบาท)

 

สำหรับบ้านเราเองก็ไม่น้อยหน้า หลายปีที่ผ่านมามี Start ups หน้าใหม่ๆ เปิดตัวขึ้นมาอย่างล้นหลาม และนี่คือตัวอย่างของ Startups ฝีมือคนรุ่นใหม่ ที่มีไอเดียทางธุรกิจน่าสนใจ และน่าจับตามองต่อไปในอนาคต

  • สุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์

https://www.marketingoops.com/wp-content/uploads/2016/09/6-20.jpg

สุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิปป๊อป จำกัด ที่ให้บริการออนไลน์ที่เชื่อมโยงขั้นตอนการขนส่งไว้ในระบบเดียว ในยุคที่ใครๆ ก็หันมาซื้อของออนไลน์ แค่กดสั่ง จ่ายเงิน จากนั้นก็รอของมาส่งที่บ้าน ทำให้มีสินค้าในระบบขนส่งแต่วันละวันเพิ่มขึ้นมาก SHIPPOP จึงเป็นสื่อกลางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ sme พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือใครก็ตามที่ต้องการส่งของ สามารถจองขนส่งออนไลน์ เปรียบเทียบราคา สร้างใบปะหน้า และติดตามพัสดุได้ในระบบเดียว เขาเรียนจบด้าน IT และมีประสบการณ์การดูแลเว็บไซต์มามากมาย ทั้งยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ในวงการ Startup มาไม่น้อย ก่อนจะมาเป็นเจ้าของ  www.shippop.com ในที่สุด

หลังจากเปิดให้บริการมากว่า 1 ปีครึ่ง บริษัทสามารถเติบโตจากจุดเริ่มต้นที่มีลูกค้าใช้บริการขนส่งสินค้าเฉลี่ย 3,000 ชิ้น/เดือน มาเป็นกว่า 1 แสนชิ้น/เดือน และกำลังจะขยายตลาดออกสู่ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์อีกด้วย

  • อานันท์ & อภิโชค ประเสริฐรุ่งเรือง

https://scontent.fbkk1-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13900083_1294017027275298_1603097468834145938_n.jpg?_nc_fx=fbkk1-6&oh=1fdcbe98bcf506b0eb4ca7206eb0d95f&oe=5A9591FF

อานันท์ และ อภิโชค ประเสริฐรุ่งเรือง สองพี่น้องผู้ก่อตั้ง  AIRPORTELs ธุรกิจบริการขนส่งและรับฝากกระเป๋าเดินทาง ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการขนส่งสัมภาระจากสนามบิน ไปถึงโรงแรมต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาของนักท่องเที่ยวให้มีเวลาในการเที่ยวและสะดวกสบายมายิ่งขึ้น

พวกเขาต่อยอดมาจากธุรกิจเดิมที่เคยทำซึ่งเป็นธุรกิจล็อกเกอร์รับฝากของสำหรับนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปตามสถานีรถไฟฟ้า MRT/ Airport link ก่อนจะขยายมาสู่ AIRPORTELs ที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของกระเป๋าเดินทางผ่าน E-mail, Facebook, Line หรือ WeChat ได้ ที่สำคัญไม่ต้องชั่งน้ำหนัก ไม่มีลิมิตขนาดกระเป๋า เหมาราคาเดียวไม่ยุ่งยาก ทั้งยังมีวงเงินชดเชยกว่า 1 แสนบาทหากเกิดความเสียหายขึ้น แม้จะเปิดบริการได้เพียงไม่กี่ปี แต่ AIRPORTELs ก็เริ่มได้รับความไว้วางใจจนมีรายได้ในปีที่ผ่านมาสูงถึง 8 หลัก และยังตั้งเป้าว่าจะไปให้ถึง 9 หลักในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย

 

จะเห็นว่าธุรกิจ StartUps ของวัยรุ่น แทบจะเป็นเรื่องของการแข่งขันไอเดีย ใครที่มองเหนช่องว่างของโอกาสและสามารถออกแบบบริการที่เติมเต็มช่องวางเหล่านั้นได้ ก็ย่อมประสบความสำเร็จกันได้ไม่ยาก ชักน่าสนใจแล้วว่าในปีต่อๆ ไปจะมีเด็กคนไหนกลายเป็นเศรษฐีกันขึ้นมาอีก

Share :